ชุมพร CHUMPORN

ชุมพร CHUMPORN

ประตูสู่อ่าวไทย เฉลียงสู่อันดามัน

จังหวัดชุมพรตั้งอยู่ภาคใต้ตอนบนบริเวณคอคอดกระหรือ กิ่วกระ ซึ่งอยู่ในเขตบ้านทับหลี ตำบลละมุ กิโลเมตรที่ 545ของทางหลวงหมายเลข 4 ห่างจากเขตเทศบาลเมือง 66 กิโลเมตรบริเวณนี้เป็นส่วนที่แคบที่สุดของแหลมมลายูโดยมีระยะจากฝั่งทะเลทางตะวันตกจรดตะวันออก กว้างเพียง 44 กิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 498 กิโลเมตร  นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปจังหวัดอื่นๆ ทางภาคใต้ทั้งอ่าวไทยหรืออันดามัน ต้องผ่านจังหวัดชุมพรซึ่งเป็นเจ้าของชายหาดสวยที่ทอดยาวถึง 222 กิโลเมตร  จังหวัดนี้เสียก่อน ทำให้ชุมพรเปรียบเสมือนประตูสู่ภาคใต้ที่แท้จริงดั่งคำขวัญประจำจังหวัด  “ประตูสู่ภาคใต้   ไหว้เสด็จในกรม   ชมไร่กาแฟ   แลหาดทรายรี   ดีกล้วยเล็บมือ   ขึ้นชื่อรังนก”  อีกทั้งจังหวัดชุมพรยังอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีพร้อมทั้งป่าไม้ ทะเล อีกทั้งยังเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ซึ่งยากนักที่จะมีทุกอย่างพร้อมสรรพในจังหวัดเดียว ลองหยุดทำความรู้จักกับจังหวัดชุมพรสักนิด แล้วจะรู้ว่าที่นี่ไม่ธรรมดา

จังหวัดชุมพรมีเนื้อที่ประมาณ 6,010 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดชุมพร คือ ด้านทิศตะวันตกมีเทือกเขาตะนาวศรีและเทือกเขาภูเก็ตเป็นแนวกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศสหภาพพม่า มีลักษณะเป็นพื้นที่สูงลาดเทจากทิศตะวันตกสู่พื้นที่ต่ำ ทางทิศตะวันออกประกอบด้วยภูเขาและป่าไม้ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญสายสั้น ๆ หลายสาย เช่น แม่น้ำท่าตะเภา แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำสวี เป็นต้น

ส่วนบริเวณตอนกลางของจังหวัด มีลักษณะเป็นที่ราบลูกคลื่นและที่ราบลุ่มแม่น้ำ มีความอุดมสมบูรณ์สูง เหมาะแก่การเพาะปลูก มีเนื้อที่ดินประมาณ 1 ใน 4 ของพื้นที่จังหวัด และด้านทิศตะวันออกมีลักษณะเป็นที่ราบตามแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ชายหาดค่อนข้างเรียบ มีความโค้งเว้าน้อย และสวยงามมาก จึงเป็นสถานที่พักผ่อนและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด

จังหวัดชุมพรมีชื่อปรากฏมาตั้งแต่ปี พ.ศ.1098 โดยมีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านของนครศรีธรรมราช ใช้รูปแพะเป็นตราเมือง เป็นเมืองในอาณาจักรฝ่ายใต้ของกรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ในสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งเป็นมณฑลชุมพร ต่อมามีการยุบการปกครองระบอบมณฑล ชุมพรจึงมีฐานะเป็นจังหวัด

คำว่า “ชุมพร” สันนิษฐานว่ามีที่มาจากคำต่าง ๆ เช่น มาจากคำว่า “ชุมนุมพล” เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่าน การเดินทัพไม่ว่าจะมาจากฝ่ายเหนือหรือว่าฝ่ายใต้ ล้วนเข้ามาตั้งค่ายชุมนุมพลกันที่นี่ อีกความหมายหนึ่งอาจมาจากคำว่า “ชุมนุมพร” เนื่องจากการเดินทางไปทำศึกสงครามของแม่ทัพนายกองตั้งแต่สมัยโบราณมา เมื่อจะเคลื่อนพลต้องทำพิธีส่งทัพโดยการบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ได้รับชัยชนะในการสู้รบ เป็นการบำรุงขวัญทหาร ในสถานที่ชุมนุมเพื่อรับพรเช่นนี้ ตรงกับความหมายชุมนุมพร หรือประชุมพร แต่อีกทางหนึ่งสันนิษฐานว่า น่าจะได้มาจากชื่อพันธุ์ไม้ธรรมชาติในท้องถิ่น ได้แก่ ต้นมะเดื่อชุมพร เพราะที่ตั้งของเมืองชุมพรนั้นอยู่บนฝั่งแม่น้ำท่าตะเภา มีต้นมะเดื่อชุมพรขึ้นมากมาย ต้นมะเดื่อชุมพรจึงเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของตราประจำจังหวัดชุมพร  จังหวัดชุมพรแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชุมพร อำเภอหลังสวน อำเภอสวี อำเภอท่าแซะ อำเภอปะทิว อำเภอละแม อำเภอพะโต๊ะ และอำเภอทุ่งตะโก

ชุมพรโดดเด่นในเรื่องความงามของโลกใต้ทะเล มีสรรพชีวิตมากมาย เช่น หอยมือเสือที่เกาะง่าม เกาะมัตตรา ปะการังสวยงามที่เกาะลังกาจิว เกาะง่าม กิจกรรมดำน้ำจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวชุมพร ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปี ที่ชุมพรจะเป็นแหล่งดูเหยี่ยวอพยพมาจากไซบีเรีย ซึ่งเหยี่ยวจะบินผ่านชุมพรนับหมื่นนับแสนตัวเลยทีเดียว

การเดินทาง

ชุมพรอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 463 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดชุมพรได้หลายวิธี ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง และรถไฟ ปัจจุบันมีสายการบินน้องใหม่ โซล่าร์ แอร์ เปิดเส้นทางกรุงเทพฯ (ดอนเมือง – ชุมพร ) ให้บริการทุกวัน  ทำให้คุณสามารถเพิ่มเวลาท่องเที่ยวชุมพรได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกด้วย

ติดต่อสายการบินโซล่าร์ แอร์

โทร: 02-5352455-6, 02-5352448-9

ล่องแก่งลำน้ำเข็ก White water rafting Kek River

 ล่องแก่งลำน้ำเข็ก White water rafting Kek River

ในประเทศไทย มีแก่งลำน้ำสำหรับการล่องแก่งที่น่าท้าทาย  อยู่หลายแห่ง  จุดสำคัญสำหรับการล่องแก่ง  คือการใช้ความสามารถ และความกล้าหาญ นำเรือลำน้อยวิ่งฉิวตามสายน้ำอันเชี่ยวกราก  ผ่านแก่งหินน้อยใหญ่  และกิ่งไม้  คดเคี้ยวไปตามลำน้ำจนถึงจุดหมายปลายทาง  ซึ่งเป็นบททดสอบที่ตื่นเต้นเร้าใจ  สนุกสนานไม่น้อยกับการ พิชิตสายน้ำทั้งหลาย  ซึ่งในบ้านเรามีแก่งให้ล่องหลายที่ไม่ว่าจะเป็น แก่งหินเพิง, ลำน้ำกว้า, ทีลอซู, และที่สนุกสุดๆ ต้องที่นี่ ลำน้ำเข็ก

ในช่วงฤดูฝน ลำน้ำเข็ก จะมีกระแสน้ำที่ค่อนข้างหลากหลายตามลักษณะของโค้งน้ำ ตั้งแต่การไหลเอื่อยไปตามแนวลำธารเรียบๆ  จนถึงเชี่ยวกรากกลางแก่งหินในลำน้ำ  ความยาวของการล่องแก่งมีให้เลือกตั้งแต่ระดับ ง่ายมาก จนถึงระดับยาก และยากที่สุด  จึงเป็นที่ท้าทายของนักผจญภัย ที่มีโอกาสได้มาทดสอบความกล้าหาญที่แก่งลำน้ำเข็ก ซึ่งเป็นแก่งที่ขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของเมืองไทย

ลำน้ำเข็ก เป็นลำน้ำที่กำเนิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ในเขตอำเภอเขาค้อ แล้วไหลผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นน้ำตกศรีดิษฐ์และน้ำตกแก่งโสภา น้ำตกปอย น้ำตกแก่งซอง และน้ำตกวังนกแอ่น ไหลผ่านอำเภอวังทอง แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นแม่น้ำวังทอง ไปรวมกับแม่น้ำน่านที่อำเภอบางกระทุ่ม

ช่วงที่เหมาะสมสำหรับการล่องแก่งลำน้ำเข็กคือ ช่วงฤดูฝน คือช่วงเดือนกรกฎาคม – ตุลาคม ของทุกปี ระยะทางในการล่องแก่งกว่า 8 กิโลเมตร ใช้เวลาในการล่องแก่งไม่เกิน 3 ชั่วโมง  ในบางช่วงน้ำอาจมีสีขุ่น และบางช่วงน้ำมีระดับที่สูงและลึก

ลำน้ำเข็กถึงแม้ว่าลำน้ำจะไม่ใหญ่นัก  แต่ด้วยระดับความแรงของสายน้ำที่ไต่ระดับตั้งแต่ระดับ 1 ไปจนถึงระดับ 5 ทำให้ ลำน้ำเข็ก จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ติดอันดับท๊อปฮิตของนักล่องแก่งในเมืองไทย นักท่องเที่ยวสามารถนำเรือยางออกไปล่องแก่งเป็นหมู่คณะได้อย่างสนุกสนานและปนความหวาดเสียว ไปตามแก่งต่างๆ ที่เรียงรายอยู่เบื้องหน้า

นอกจากการล่องแก่งที่สนุกสนาน และท้าทายแล้ว นักท่องเที่ยวจะได้ชิมกาแฟแก่งซอง ซึ่งเป็นกาแฟท้องถิ่นพันธุ์อราบิก้า ต้นตำรับแท้ๆ ที่มีความเข้ม เติมด้วยความมัน และหวานหอม ตามแบบฉบับ “กาแฟแก่งซอง” ซึ่งเป็นกาแฟที่ปลูกอยู่ทั่วไปบริเวณตำบลแก่งโสภา จึงมีชื่อเรียกติดปากว่า “กาแฟแก่งซอง” ปัจจุบันกาแฟแก่งซองเป็นที่ยอมรับของคอกาแฟ

ที่พักรีสอร์ทใกล้ลำน้ำเข็ก

พนาวัลย์รีสอร์ท

41/1 หมู่ 2 ถ.พิษณุโลก-หล่มสัก กม.52 ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก 65220

เบอร์โทรศัพท์ :055-29 3040, 081-040 5003

เรนฟอเรสท์ รีสอร์ท

42 หมู่ 9 ถ.มิตรภาพ ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก 65220

เบอร์โทรศัพท์ :055-29 3085-6

การเดินทาง

เส้นทางแรก จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 มาถึงสิงห์บุรีแล้ว แยกเข้าทางสายเอเซียทางหลวงหมายเลข 11 (สายอินทร์บุรี - ตากฟ้า) จนถึงทางหลวงหมายเลข 1 ที่อำเภอวังทองเลี้ยวซ้ายไปอำเภอหล่มสักประมาณ กิโลเมตรที่ 44 - ถึงกิโลเมตรที่ 52 สามารถลงล่องแก่งได้โดยติดต่อผู้ประกอบการล่องแก่งลำน้ำเข็กได้ตลอดเส้นทาง

เส้นทางที่สอง จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธินอำเภอวังน้อย แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ถึงจังหวัดนครสวรรค์ แล้วใช้เส้นทาง 117 ตรงสู่จังหวัดพิษณุโลก ผ่านตัวเมืองพิษณุโลก เดินทางตามทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก - หล่มสัก) ประมาณ กิโลเมตรที่ 44 - ถึงกิโลเมตรที่ 52

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือเขต 3  โทร. 0 5525 2742-3  โทรสาร 0 5523

ระยอง Rayong

ระยอง Rayong

ระยอง เป็นจังหวัดขนาดเล็กแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกของประเทศไทย  ที่เป็นที่รู้จักในปัจจุบันว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว   มีผลไม้ชั้นยอด เป็นแหล่งอุตสาหกรรมหลักของประเทศ   มีสภาพเศรษฐกิจดี   เมื่อก่อนจังหวัดระยองจะเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งผลไม้ดีของภาคตะวันออก  ไม่ว่าจะเป็นมังคุด ทุเรียน เงาะ รวมทั้ง อาหารทะเลสด แปรรูป กะปิ น้ำปลา เนื่องจากความเหมาะสมของสภาพดินฟ้าอากาศที่เอื้ออำนวยและสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสม  นอกจากนั้น ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม เนื่องจากมีชายหาดยาวสวยเลียบขนานไปกับอ่าวไทย และเกาะสวยงามระดับโลก เช่น เกาะเสม็ด ซึ่งเป็นที่รู้จักแพร่หลายท่ามกลางนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ  ฐานเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดคือเกษตรกรรม การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม

ระยอง เริ่มปรากฎชื่อในพงศาวดารเมื่อปี พ.ศ.2113 ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่งกรุงศรีอยุธยา โดยมีประวัติดั้งเดิมตามข้อสันนิษฐานว่า น่าจะก่อตั้งเมืองขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 1500 ยุคที่ขอมมีอานุภาพเฟื่องฟูแถบดินแดนสุวรรณภูมิ นักโบราณคดีได้สันนิษฐานจากหลักฐานที่พบ คือ ซากศิลาแลงคูค่าย ที่ยังหลงเหลืออยู่ในเขตอำเภอบ้านค่าย อันเป็นศิลปะการก่อสร้างแบบขอม โดยในสมัยโบราณ ระยองมีชนพื้นเมืองคือชาวซอง ซึ่งเป็นเผ่าที่อาศัยอยู่กระจายโดยทั่วไปในภาคตะวันออก ในประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งได้กล่าวถึงเมืองระยองในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ระหว่างที่กรุงศรีอยุธยาใกล้จะเสียแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2

ในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ในเดือนยี่ปี พ.ศ.2309 พระยาวชิรปราการ หรือ พระยาตาก พร้อมไพร่พลประมาณ 500 คน ได้ตีฝ่าวงล้อมทัพพม่า มุ่งสู่ตะวันออกมาหยุดพักไพร่พลที่เมืองระยอง และได้ปราบปรามคณะกรรมการเมืองที่แข็งข้อยึดเมืองระยองได้ จากความสามารถครั้งนั้น เหล่าทหารจึงยกย่องให้เป็น "เจ้าตากสิน" ก่อนเดินทัพไปยังเมืองจันทบุรี เพื่อยึดที่ดินในการกอบกู้อิสรภาพคืนจากพม่าได้ในปี พ.ศ.2113

การทองเที่ยวและการบริการ

ระยอง เป็นจังหวัดติดชายทะเลฝั่งตะวันออก  จึงเหมาะแก่การทองเที่ยวทั้งชายหาด ชายทะเล เกาะต่างๆ ภูเขา น้ำตก สวนผลไม้รวมทั้งอาหารทะเลที่สด สะอาด  มีชายหาดที่ยาวกว่า 120 กิโลเมตร ทั้งยังมีเกาะเสม็ด ที่ถือเป็นเพชรน้ำเอกของอ่าวไทย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาจังหวัดระยองได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ

แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง

สถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมือง  

- ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน อนุสรณ์สถานแด่ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"

- วัดป่าประดู่

- พระเจดีย์กลางน้ำ

- ศาลหลักเมือง

- สวนศรีเมือง

สถานที่ท่องเที่ยวชายทะเล

- เกาะมัน

- เกาะแก้วพิสดารหรือเกาะเสม็ด

สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ด

- อ่าวทับทิม

- หาดทรายแก้ว

- อ่าวช่อ

- หาดอ่าวพร้าว

- หาดทรายอื่น ๆ บนเกาะเสม็ด ได้แก่ หาดหินโคร่ง หาดคลองไผ่หาดพุทรา หาดนวล หาดดอล หาดเทียน    หาดทราย และหาดกิ่วหน้านอก

สถานที่ท่องเที่ยวนอกตัวเมือง

- หาดทรายทอง

- บ้านเพ

- สวนวังแก้ว

- แหลมแม่พิมพ์

- อนุเสาวรีย์สุนทรภู่

- วัดสารนารถธรรมาราม

- ถ้ำเขาวง

- อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา

- บ้านก้นอ่าว

- สวนสน

- อ่างเก็บน้ำดอกกราย

- สวนสุภัทราแลนด์

- โรงงานโลตัส คริสตัล

- หาดแสงจันทร์

- บรุคไซด์ วัลเล่ย์

ขอบคุณแหล่งข้อมูลเว็บไซร์จังหวัดระยอง

ที่พักระยองที่แนะนำ

บ้านสวนนพเก้า "ระยอง"

บ้านสวนนพเก้า รีสอร์ท อ.แกลง จ.ระยอง

รีสอร์ทหรู คู่เมืองระยอง

โรงแรมระยองรีสอร์ท

186 หมุ่ 1 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง 21160

บ้านกระโดน ที่พักจ.ระยอง

97 ตำบลชากโดน อำเภอแกลง ระยอง

หมู่เกาะมัน แกลง ระยอง Mu Koh Man

หมู่เกาะมัน แกลง ระยอง Mu Koh Man

หมู่เกาะมัน ขึ้นอยู่กับตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ประกอบด้วยเกาะเล็กๆ 3 เกาะคือ เกาะมันใน เกาะมันกลาง เกาะมันนอก  แต่ละเกาะต่างมีลักษณะเฉพาะบุคลิกเป็นของตนเอง

เกาะมันใน เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ใช้ดำเนินโครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล โดยสถานีเพาะเลี้ยงพันธุ์เต่าทะเล กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มีพื้นที่ประมาณ 131 ไร่ มีอ่าวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น อ่าวต้นมะขาม อ่าวหินโขดหญ้า อ่าวโกงกาง และอ่าวหน้าบ้าน โดยเฉพาะที่อ่าวหน้าบ้าน มีปะการังที่สวยงาม ส่วนอ่าวโกงกางมีทรายเรียบ การเที่ยวชมเกาะมันใน สามารถเช่าเรือได้ที่ท่าเรือมะขามป้อม โทรศัพท์ 038-616096, 038-657466

เกาะมันกลาง มีรีสอร์ทเล็กๆ เงียบสงบชื่อ มันตาคีรี ไอส์แลนด์ รีสอร์ท  ที่มีทั้งหาดหิน หาดทราย หาดกรวด จุดชมวิวหมู่เกาะเกาะแห่งนี้เคยได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่เข้าถึงได้ยาก เพราะหน้าหาดมีแต่หิน...หิน...และหิน ที่เป็นอันตรายต่อการจอดเรือ จึงไม่ค่อยมีใครเดินทางมา ทำให้เพชรเม็ดงามเม็ดนี้ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ในหลืบลึกเร้น

แต่ในวันนี้ เจ้าของเกาะแห่งนี้ ได้เปลี่ยนแนวหันมาจัดสร้างบูติครีสอร์ทขึ้น และด้วยความที่ตัวเกาะมีศักยภาพที่ครบครัน และเจ้าของเกาะก็มีความตั้งใจ ในวันนี้รีสอร์ทบนเกาะมันกลางที่ชื่อว่า มันตาคีรีไอส์แลนด์ รีสอร์ท แห่งนี้จึงพร้อมบริการและเปิดมุมเด็ด มุมทะเลแหวก  ที่นับว่ามีความสวยงามมากออกสู่สายตาสาธารณชน

นอกจากมุมสวยๆ อย่าง มุมทะเลแหวก มันตาคีรี ไอส์แลนด์ รีสอร์ท ก็มีบริการหลากหลาย อาหารอิ่มอร่อย บ้านพักงดงาม และมีความเป็นส่วนตัว ไม่น้อยหน้ารีสอร์ทอื่นๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงกันเลย รายการแพ็คเกจทัวร์เกาะนี้จะพ่วงรวมการท่องเที่ยวเกาะมันในไปด้วย สามารถติดต่อได้ที่ 081-8491543

เกาะมันนอก เป็นเกาะเล็กๆที่ตั้งอยู่นอกสุดของหมู่เกาะมัน และเป็นที่ตั้งของ มันนอก ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลระยอง หาดทรายสวย เม็ดทรายละเอียดแน่นนุ่มเท้า หาดหินงาม น้ำทะเลใสจนมองเห็นพื้นทราย ใต้น้ำมีแนวปะการังให้ดำน้ำชมความสวยงาม ที่พักสวยอยู่ติดชายหาด เป็นบรรยากาศการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ และมีความเป็นส่วนตัวมาก ซึ่งผู้ที่จะมาท่องเที่ยวคือผู้ที่ซื้อแพ็คเกจทัวร์ของรีสอร์ทบนเกาะนี้เท่านั้น ท่านสามารถติดต่อซื้อแพ็คเกจทัวร์ ได้ที่ โทรศัพท์ 02-8603025-7

มหาสงกรานต์สืบสานวัฒนธรรมไทย

มหาสงกรานต์สืบสานวัฒนธรรมไทย

เทศกาลมหาสงกรานต์ ถือเป็นประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทยมาแต่โบราณ เป็นประเพณีอันดีงามที่แสดงถึง ความรัก ความผูกพัน ความกตัญญูต่อผู้ใหญ่ ผู้อาวุโส ผู้มีพระคุณ และความเอื้ออาทร ความอ่อนโยน ที่ผู้คนในสังคมไทยมอบให้แก่กัน โดยมีน้ำสะอาดและเครื่องหอมเป็นสื่อ ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนของเดือนเมษายน

ประเพณีสงกรานต์ ถือเป็นประเพณีใหญ่ในรอบปี ที่ชาวไทยให้ความสำคัญและเข้าร่วมกิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก โดยแต่ละภูมิภาค แต่ละจังหวัดก็อาจจะมีรายละเอียดและรูปแบบกิจกรรมที่แตกต่างกันไปตามวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนแต่ละท้องถิ่น แต่กิจกรรมหลักที่บรรพบุรุษไทยถือปฏิบัติสืบทอดกันมานั้นจะไม่ค่อยแตกต่างกัน โดยคนไทยในทุกภาคจะถือเอาเทศกาลสงกรานต์เป็นวันเวลาที่ดีสำหรับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และการถือปฏิบัติสิ่งดีๆ ให้กับชีวิต โดยจะเริ่มต้นจากการทำบุญตักบาตรในตอนเช้าเพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว จากนั้นก็เป็นการสรงน้ำพระในช่วงบ่าย การนำน้ำสะอาด น้ำอบ เครื่องหอม ไปกราบรดน้ำขอพรจากผู้หลักผู้ใหญ่ เพื่อท่านจะได้ให้ศิลให้พรให้ข้อคิดที่ดี  เพื่อนำมาเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต และสนุกสนานกับกิจกรรมรดน้ำมอบความเย็นฉ่ำให้แก่กัน โดยถือปฏิบัติด้วยความสุภาพ ให้เกียรติแก่กันและ ซึ่งถือเป็นแก่นของประเพณีสงกรานต์ที่เราควรปฏิบัติสืบทอดกันให้คงอยู่ตลอดไป

เทศกาลสงกรานต์ ยังเป็นโอกาสที่คนไทยที่ทำงานต่างถิ่นของตัวเอง ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา ถือเป็นโอกาสแห่งการรวมญาติครั้งใหญ่ในรอบปี โดยรัฐบาลได้ประกาศให้วันที่ 13 เมษายนของทุกปี เป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ และประกาศให้วันที่ 14 เมษายนของทุกปี เป็นวันแห่งครอบครัว อันแสดงให้เห็นว่าสังคมไทยเราให้ความสำคัญกับครอบครัวและผู้สูงอายุ ซึ่งหากสังคมไทยเรามีครอบครัวซึ่งเป็นหน่วยย่อยของสังคมที่อบอุ่น มีปู่ย่า ตายาย ผู้สูงอายุคอยดูแล ให้คำแนะนำพร่ำสอนอย่างอบอุ่น เหมือนเช่นสังคมไทยในอดีตที่ดำรงมา ปัญหาต่างๆในสังคมก็จะลดน้อยลง สังคมไทยก็จะเป็นสังคมที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น
ที่มา : สารจาก ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ประเพณีสงกรานต์ พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ 2555

ประเพณีสงกรานต์พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ปี ๒๕๕๕

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ จังหวัดสมุทรปราการ จัดงานประเพณีสงกรานต์พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ระหว่างวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๕ – ๒๔ เมษายน ๒๕๕๕ ( ต้องใช้อักขระตัวเลขไทยสินะ ถึงจะเข้าบรรยากาศแบบไทยๆ ) โดยมีรายละเอียดกิจกรรมมากมายเช่น ขบวนแห่หงส์ธงตะขาบ ขบวนแห่นางสงกรานต์ ขบวนรถบุปผชาติ การละเล่นสะบ้าของชาวไทยรามัญ การละเล่นพื้นบ้าน ประกวดหนุ่มลอยชาย และการเล่นน้ำสงกรานต์แบบชาวไทยรามัญ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : 

      ที่ว่าการอำเภอพระประแดง โทร ๐ ๒๔๖๓ ๔๘๙๑ ต่อ ๑๒๙-๑๓๐ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๕๐ ๕๕๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๕๐ ๕๕๑๑

เว็บไซต์ : http://www.tourismthailand.org

แนะนำที่พักในพระประแดง สมุทรปารการ

โรงแรม ริมน้ำโฮเต็ล

โรงแรม ริมน้ำโฮเต็ล บริการห้องพักแบบชั่วคราว และค้างคืน ห้องพักราคาถูก สะอาด สะดวกปลอดภัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ทีวี ตู้เย็น น้ำร้อน น้ำอุ่น บริการห้องคาราโอเกะ ระดับวีไอพี มีเพลงให้ท่านเลือกร้องมากกว่า 20000 เพลง พร้อมมิวสิควีดีโอ บริการนวดแผนโบราณ โดยหมอนวดสาวสวยฝีมือดี บริการโต๊ะสนุ๊กค์ โต๊ะใหญ่มาตรฐานการแข่งขัน บริการห้องประชุม สัมมนา และสถานที่จัดเลี้ยงสังสรรค์ และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ชิด ติดธรรมชาติ "ตลาดน้ำลัดหลวง" แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเมืองลัดหลวง เลือกซื้ออาหารพื้นบ้าน สินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง และล่องเรือชมธรรมชาติสองฝั่งคลอง

ที่อยู่ :

78/61 หมู่ 14 สุขสวัสดิ์ 70 ต.บางครุ อ.พระประแดง สมุทรปราการ 10130

โทรศัพท์ : 02-4633371, 02-4633314

ประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ เกาะสีชัง ปี2555

ประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ เกาะสีชัง ปี2555

           เชิญเที่ยวงาน “ประเพณีสงกรานต์ เกาะสีชัง 2555″ ร่วมสนุกสนานเล่นน้ำและร่วมสืบสานประเพณีไทย และไม่ควรพลาดชม “ประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ” ซึ่งเป็นประเพณีที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 18 เมษายน ของทุกปี ณ เกาะขามใหญ่ ถือได้ว่าเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น ที่ปฏิบัติกันมายาวนาน ในโอกาสของเทศกาลที่ทุกคนจะได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และได้เล่นน้ำด้วยกัน โดยผู้ชายจะเลือกสาวที่ชอบแล้วขออนุญาตอุ้มลงเล่นน้ำทะเล บางครอบครัว ลูกหลานก็จะอุ้มผู้สูงอายุลงน้ำเช่นกัน สำหรับกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอาทิ

การทำบุญตักบาตร

การก่อเจดีย์ทราย

การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน

การสรงน้ำพระ

ขบวนแห่หลวงปู่พระครูสุทธิรัตน์

รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ

การแข่งขันพายเรือคายัค

ประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ

งาน “ประเพณีสงกรานต์ เกาะสีชัง 2555″ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 19 เมษายน 2555 ณ เกาะสีชัง , เกาะขามใหญ่ ศรีราชา ชลบุรี

สำหรับประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ เป็นประเพณีที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 18 เม.ย.ของทุกปี ที่เกาะขามใหญ่ ชาวเกาะสีชังจัดประเพณีวันไหล ร่วมกันเล่นสาดน้ำสงกรานต์และอุ้มสาวลงน้ำ จนเป็นที่ถูกใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พากันอุ้มผู้ใหญ่ ผู้สาว ผู้เฒ่า ผู้แก่ ลงไปในทะเล และขอพรเพื่อให้มีความสุขความเจริญในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันปีใหม่ไทย ภายในงานยังมีการละเล่นพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็น การปีนเสาน้ำมัน การแข่งขันเรือ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

 เทศบาลเกาะสีชัง โทร. (038) 216-141

แนะนำที่พักเกาะสีชัง

ชาร์ลีส์ บังกะโลว์ส์ Charlie's Bungalows

ชาร์ลีส์ บังกะโลว์ส์ โรงแรมยอดนิยมระดับ 2 ดาว ตั้งอยู่บนเกาะสีชัง จ.ชลบุรี เป็นบังกาโลขนาดเล็ก แต่ตกแต่งให้ดูทันสมัย น่ารัก โดยเน้นโทนสีสันสวยสดใสเหมือนลูกกวาด อยู่ท่ามกลางสวนหย่อมให้ความรู้สึกสดชื่นสบายตา อีกทั้งยังอยู่ใกล้แหล่งชุมชนสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซต์ ขี่เที่ยวชมสถานที่บนเกาะได้ง่าย สะดวกทั้งการเดินทางไปสะพานท่าเรือ-ท่าแฉลบ สะพานคนเดิน หรือร้านอาหาร สามารถนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปภายในบังกาโลได้ 

ชาร์ลีส์ บังกะโลว์ส์ มีบังกะโลทั้ง 14 หลัง ล้วนทันสมัยและสว่างสดใส เพื่อให้คุณเข้าพักได้อย่างผ่อนคลายที่พักของเราเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น เช่น เครื่องปรับอากาศ ทีวีดาวเทียม และอุปกรณ์ชงชาและกาแฟบริเวณใกล้เคียงที่พักมีร้านอาหารไทยและอาหารยุโรปให้เลือกเป็นจำนวนมากเพื่อตอบสนองทุกรสนิยม  ชาร์ลีส์ บังกะโลว์ส์ จึงเป็นที่พักเหมาะสำหรับคุณที่จะเที่ยวชมงานประเพณี “ประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ”  ของเกาะสีชัง

การเดินทาง

     บนเกาะสีชัง จากท่าเรือไปทางสะพานอัษฏางค์ ชาร์ลีส์ บังกะโลว์ส์ อยู่ก่อนถึงสถานีตำรวจน้ำ

ที่จอดรถ : ที่จอดรถของชาลีบังกาโล

39/2 หมู่ 2 ท่าเทววงษ์, เกาะสีชัง, เกาะสีชัง, ไทย 20120 

ถ้ำแก้วโกมล Kaew Komol Forest Park

ถ้ำแก้วโกมล Kaew Komol Forest Park

ถ้ำแก้วโกมล  สุดยอดถ้ำแห่งเมืองไทยที่อำเภอแม่ลาน้อยจังหวัดแม่ฮ่องสอน  จังหวัดแม่ฮ่องสอนมี 7 อำเภอ มีอยู่อำเภอหนึ่ง คืออำเภอแม่ลาน้อย ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนใกล้กับอำเภอแม่สะเรียง เป็นอำเภอที่ประดุจบ้านน้อยกลางป่าใหญ่ แม้จะเป็นดั่งบ้านน้อย แต่มีของดีที่ล้ำค่า นั่นคือถ้ำแก้วโกมล ถ้ำที่ได้รับการยกย่องว่ามีผลึกแคลไซต์ที่งามที่สุดของเมืองไทย

ถ้ำแก้วโกมล แห่งนี้เป็นถ้ำผลึกแคลไซต์ ที่ประกอบด้วยหินในตระกูลคาร์บอเนต ชนิดแอนไฮดรัสคาร์บอเนต ที่มีความใสสะกาวบริสุทธิ์มีรูปลักษณ์หลากหลายลักษณะ มีรูปผลึกอยู่ในระบบสามแกนราบ ส่วนใหญ่เป็นรูปหกเหลี่ยมยาวยอดแหลมหรือรูปสี่แหลมขนมเปียกปูน มีแนวแตกเรียบที่สมบูรณ์ 3 แนว ความแวววาวของผลึกแร่แคลไซต์ สีขาวใสที่เคลือบฉาบผนังภายในถ้ำแก้วโกมล หรือที่เรียกกันว่าถ้ำน้ำแข็ง ถูกค้นพบโดยบังเอิญ เมื่อวิศวกรสำรวจเหมืองแร่ของสำนักงานทรัพยากรธรณีแม่ฮ่องสอน ขุดเจาะอุโมงค์เข้าไปตามสายแร่ ลักษณะถ้ำมีผนังแวววาว ยิ่งยามต้องแสงไฟผลึกแร่ดูงดงามดั่งเกล็ดน้ำแข็ง ถ้ำเช่นนี้พบเห็นได้เพียง 3 แห่งในโลก คือ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศจีน และประเทศไทย

การเที่ยวชมถ้ำแก้วโกมล  

                ทางวนอุทยานได้จัดเจ้าหน้าที่พาเที่ยวชม พร้อมการบรรยายประกอบ แบ่งเป็นกลุ่มและรอบ ๆ ละไม่เกิน 20 คน เนื่องจากสภาพภายในถ้ำแคบ อากาศน้อย ค่อนข้างร้อน และต้องเดินลงไปตามบันไดลึกประมาณ 50 ม. แบ่งเป็น 5 ชั้น ตามลักษณะรูปร่างของผลึกแคลไซค์ และใช้เวลาเที่ยวชมประมาณ 20 นาที ไม่อนุญาตให้นำสัมภาระใด ๆ ทุกชนิดเข้าไปเที่ยวชมภายในถ้ำ และห้ามสัมผัสผลึกแคลไซค์โดยเด็ดขาด

อัตราค่าบริการ  

      ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ราคานี้ไม่รวมอัตราค่ารถบริการรับ-ส่งขึ้นสู่ถ้ำที่ต้องเสีย

การเดินทาง

จากเชียงใหม่ถึงแม่ลาน้อย เส้นทางฮอด – แม่สะเรียง ใช้ทางหลวงหมายเลข 108  ผ่านอำเภอหางดง สันป่าตอง จอมทอง ฮอด จากนั้นเข้าสู่อำเภอแม่สะเรียง

      จากแม่สะเรียงสามารถเดินทางต่อไปยังอำเภอแม่ลาน้อย ขุนยวม และอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนได้ ด้วยทางหลวงหมายเลข 1095  เมื่อถึงอำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลอำเภอ แม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เลี้ยวซ้ายเข้าทางไปบ้านห้วยมะไฟ อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามถนนคอนกรีตกว้าง 4 เมตร ประมาณ 4 กิโลเมตร ก่อนเลี้ยวขวาไปตามทางลูกรังซึ่งลัดเลาะตามไหล่เขาที่มีสภาพสูงชันอีกประมาณ 500 เมตร จะถึงถ้ำแก้วโกมล

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

            ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว จังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร 053-612982  และ 053-61 2983      

งานประเพณีวันไหล กองข้าวพัทยา ชลบุรี ประจำปี 2555

งานประเพณีวันไหล กองข้าวพัทยา  ชลบุรี ประจำปี 2555

เมืองพัทยา ชลบุรี เชิญเที่ยว “งานประเพณีวันไหล  - กองข้าวพัทยา ” ประจำปี 2555 เมืองพัทยาเชิญเที่ยว “งานประเพณีวันไหล – กองข้าวพัทยา” ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 18 - 20  เมษายน 2555 เพื่อเป็นการส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักประเพณีอันดีงาม  อีกทั้งยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีของไทยให้คงอยู่สืบไป โดยมีกำหนดการดังนี้

               วันพุธที่ 18 เมษายน 2555 งานประเพณีวันไหลนาเกลือ ณ สวนสาธารณะลานโพธิ์นาเกลือ 

               เวลา 07.30 น. ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ จำนวน 99 รูป

               เวลา 09.00 น.สรงน้ำพระพุทธรูปและรดน้ำขอพรจากผู้สูงอายุ หลังจากนั้น              

               เวลา 10.00 น. จะมีการเคลื่อนขบวนแห่พระพุทธรูปจากสวนสาธารณะลานโพธิ์ไปรอบตลาดนาเกลือ เพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำ เพื่อความเป็นสิริมงคล

               วันพฤหัสบดีที่  19  เมษายน  2555  งานประเพณีวันไหลพัทยา  ณ วัดชัยมงคล พัทยาใต้

               เวลา 08.30 น.   สรงน้ำพระพุทธรูป พระสงฆ์ และรดน้ำขอพรจากผู้สูงอายุ หลังจากนั้น

               เวลา 12.00 น.   จะมีการเคลื่อนขบวนแห่พระพุทธรูปและขบวนบุปผชาติ จากวัดชัยมงคล เลี้ยวขวาเข้าถนนเลียบชายหาดจนถึงแยกปลาโลมา วกกลับตรงแยกพัทยากลาง เลี้ยวซ้าย ลงสู่ถนนเลียบชายหาด กลับสู่วัดชัยมงคล

                วันศุกร์ที่  20  เมษายน 2555  งานประเพณีกองข้าวเมืองพัทยา  ณ สวนสาธารณะลานโพธิ์นาเกลือ

                เวลา 12.00 น.  มีการแข่งขันยิงหนังสติ๊ก,แข่งขันตะกร้อลอดบ่วง, มวยทะเล , เล่นเกมส์/ทายปัญหา

                เวลา 18.30 น.  พิธีบวงสรวงกองข้าวและขบวนแห่ นางฟ้า เทวดา ขบวนแห่ผีป่า, การออกร้านอาหารของชุมชนและหน่วยงานราชการ , การแสดงดนตรี คณะแม่ขวัญจิตร ศรีประจัญ และการแสดงดนตรีจากศิลปินวง บลูเบอร์รี่ และศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง กุ้ง สุทธิราช วงเทวัญ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวและประชาชนจากทุกพื้นที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันไหลซึ่งจะทำให้การจราจรบนท้องถนนติดขัดเป็นประจำทุกปี

               ดังนั้นในปีนี้เมืองพัทยาร่วมกับสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยาจะทำการปิดการจราจรบริเวณถนนเลียบชายหาดพัทยาตั้งแต่โค้งโรงแรมดุสิตรีสอร์ทจนถึงชายหาดพัทยาใต้

               ในวันที่  19  เมษายน 2555

                เวลา  09.00 น. – 20.00 น. เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันไหลได้เล่นสาดน้ำกัน โดยเมืองพัทยาจะเตรียมถังใส่น้ำไว้บริการให้กับนักท่องเที่ยวตามจุดต่าง ๆ ตลอดแนวถนนชายหาด

               นอกจากนี้ยังมีการออกบู๊ทของหน่วยงานต่างๆ สำหรับท่านที่นำรถมาสามารถนำไปจอดยังสถานที่จอดรถต่างๆได้และขอความร่วมมือจากประชาชนในปีนี้ ร่วมกันสืบสานประเพณีอันดีงาม เล่นสงกรานต์ด้วยมารยาทของไทย 

ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

 ททท. สำนักงานพัทยา โทรศัพท์ 038-427-667, 038-428-750  Call Center : 1672

ที่มา : http://www.pattaya.go.th/

ปราสาทเมืองที Prasat Mueang Thi

ปราสาทเมืองที Prasat Mueang Thi

ผมเองเป็นคนจังหวัดสมุทรปราการ แต่ได้ภรรยาคนจังหวัดสุรินทร์ อยู่บ้านเมืองที เป็นเขยบ้านเมืองทีมามากกว่า 25 ปี เมื่อก่อนแถวบ้านเมืองที ถือได้ว่า เป็นถิ่นกันดารและไกลปืนเที่ยง บริเวณหมู่บ้านจะเป็นเนิน มีแต่ป่าไผ่ คนสมัยก่อนจะปลูกต้นไผ่เป็นรั้วล้อมรอบ และมากไปด้วยเสียงร่ำลือว่า “มีคนเล่นของเยอะ” จึงนิยมนำต้นไผ่มาทำรั้วบ้านเพื่อเป็นการป้องกันคุณไสย  ปัจจุบันความเจริญเข้ามาแทนที่  ความลึกลับต่างๆจึงได้สูญหายไป 

หมู่บ้านเมืองที ตามประวัติศาสตร์แล้ว เคยเป็นที่ตั้งเมืองสุรินทร์มาก่อน หลวงสุรินภักดี(เชียงปุม) ซึ่งเดิมเป็นหัวหน้าหมู่บ้านเมืองที ได้ขอให้เจ้าเมืองพิมาย กราบบังคมทูลขอพระกรุณาโปรดเกล้า จากพระเจ้าอยู่หัวพระที่นั่งสุริยามรินทร์ ย้ายหมู่บ้านจากบ้านเมืองทีมาอยู่ที่บริเวณบ้านคูประทาย ซึ่งก็คือบริเวณที่ตั้งของจังหวัดสุรินทร์ในปัจจุบันเนื่องจากเห็นว่าบริเวณดังกล่าวเป็นชัยภูมิที่เหมาะสมอย่างยิ่งมีกำแพงล้อมรอบถึง 2 ชั้น มีน้ำอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ต่อมาหลวงสุรินทร์ภักดีได้กระทำความดีความชอบเป็นที่โปรดปราน จึงได้ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯให้ยกบ้านคูประทายเป็น" เมืองประทายสมันต์ " และเลื่อนบรรดาศักดิ์หลวงสุรินทร์ภักดีเป็น พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ในปี พุทรศักราช 2329 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ " เมืองประทายสมันต์ " เป็น " เมืองสุรินทร์ " ตามบรรดาศักดิ์ของเจาเมือง

ปราสาทเมืองที ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเมืองที หมู่ที่ 1 ตำบลเมืองที อ.เมือง จ. สุรินทร์ ปราสาทตั้งอยู่ภายในวัดจอมสุทธาวาส (วัดมืองที) ปราสาทเมืองทีเป็นปราสาทแบบเขมรแห่งหนึ่งที่ได้รับการดัดแปลงในสมัยหลัง เช่นเดียวกับปราสาทศรีขรภูมิ อ.ศรีขรภูมิ ปราสาทก่อด้วยอิฐ ฉาบปูน มี 5 หลัง สร้างรวมกันเป็นหมู่ คือ หลังหนึ่งอยู่ตรงกลาง และอีกสี่หลังอยู่ที่มุมทั้งสี่ ตั้งอยู่บนฐานอิฐอันเดียวกัน ปัจจุบันหักพังเหลือเพียง 3 หลัง คือ หลังกลาง หลังที่มุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปรางค์ทั้งสามมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมไม้สิบสอง หลังกลางมีขนาดใหญ่สุด ตั้งอยู่บนฐานสูง และมีบันไดทางขึ้นทั้งสี่ด้าน แต่ตัวเรือนธาตุตันทึบ ไม่มีประตูเนื่องจากการดัดแปลงในชั้นหลัง ส่วนหลังคาทำเป็นชั้นมี 3 ชั้น เลียนแบบตัวเรือนธาตุ ส่วนยอดบนหักหาย

ปรางค์บริวารที่เหลือ 2 องค์นั้น มีขนาดและลักษณะเดียวกัน ทรงสอบมี 3 ชั้น ตัวเรือนธาตุแต่เดิมมีประตู มาก่อทึบในสมัยหลังเช่นเดียวกับปรางค์หลังกลาง จากแผนผังและลักษณะของสถาปัตยกรรม ปราสาทเมืองทีนับเป็นโบราณสถานเขมรอีกแบบหนึ่งที่นิยมสร้าง คือ มีปราสาทหลังกลางเทียบเท่าเขาพระสุเมค มีปรางค์มุมทั้งสี่ตามความเชื่อในลัทธิศาสนาหราหมณ์ แต่จะสร้างขึ้นเมื่อใดไม่อาจบอกได้ ด้วยไม่พบจารึกหรือลวดลายทางศิลปะที่สามารถเปรียบเทียบได้

การเดินทาง

การเดินทาง จากตัวเมืองประมาณ 16 กิโลเมตร ตามเส้นทางสุรินทร์-ศรีขรภูมิ ทางหลวงหมายเลข 226 จนถึงป้ายบอกทางเข้าบ้านเมืองที เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 400 เมตร จะเห็นซุ้มประตูวัดจอมสุทธาวาส