วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วัดใหญ่ชัยมงคล

วัดใหญ่ชัยมงคล
ในช่วงวันที่ 21 – 23 ตุลาคม 2555  บริษัทฯ ได้หยุดงานติดต่อกันสามวัน  ได้มีโอกาสเป็นไกด์พาชาวพม่าจำนวน 1 รถบัส  ประมาณ 70 กว่าคนไปทัศนาจรเมืองเก่าอยุธยา ในวันที่ 22   ตุลาคม  โปรแกรมสถานที่แรกคือวัดพนันเชิง   วัดใหญ่ชัยมงคล   อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยาวัดมหาธาตุ (วัดที่พบเศียรพระพุทธรูปหินทรายในรากต้นโพธิ์)  ปิดท้ายด้วยตลาดน้ำอโยธยา ซึ่งก็เป็นที่ชื่นชอบของชาวพม่า  เพราะได้มีโอกาสมากราบขอขมาในสิ่งที่บรรพชนของเขาได้กระทำไว้กับวัดวาอาราม  ส่วนข้อมูลที่ท่านจะอ่านต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่ผมได้มาจากแผ่นพับจากทางวัดใหญ่ชัยมงคล
ประวัติวัดใหญ่ชัยมงคล
วัดใหญ่ชัยมงคลมีประวัติที่ยาวนานมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทอง ทรงสร้างขึ้นในปี 1900  เพื่อถวายแด่พระสงฆ์ คณะป่าแก้วที่ได้ไปบวชเรียนมาจากสำนักสมเด็จพระวันรัตมหาเถระ ในลังกาทวีปและถวายนามว่า วัดป่าแก้วพระสงฆ์ปฏิบัติธรรมบำเพ็ญภาวนาเป็นสำคัญ พระเจ้าอู่ทอง จึงแต่งตั้ง สมเด็จพระวันรัตเป็นสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายขวา คู่กับ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายซ้าย วัดป่าแก้วแห่งนี้ จึงได้ชื่อว่า วัดเจ้าพญาไทซึ่งหมายถึงวัดพระสังฆราช  แต่ด้วยวัดนี้เป็นพระอารามหลวง มีบริเวณกว้างขวาง และมีสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตรวมทั้ง พระเจดีย์ชัยมงคล เจดีย์องค์ใหญ่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงสร้างขึ้น  ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่า วัดใหญ่ชัยมงคล มาจนทุกวันนี้
พระเจดีย์ชัยมงคล
พระเจดีย์ชัยมงคล นับเป็นปูชนียวัตถุอันสำคัญยิ่งอย่างหนึ่งของชาติไทย เพราะเป็นนิมิตรหมายของเอกราชของชาติ เป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงความกล้าหาญเสียสละ ที่สมเด็จพระมหาวีรราชเจ้าและวีรบุรุษของชาวไทยได้มีมาในอดีต อันเป็นผลตกทอดมาถึงคนไทยทุกคนในปัจจุบันนี้ในวิถีแห่งชีวิตทุกทาง นอกจากนั้นยังเป็นเครื่องหมายแห่งชาวไทยทั้งมวล ที่ได้ร่วมมือกันกอบกู้เอกราชของชาติและธำรงไว้ซึ่งเอกราชนั้นตลอดมา เป็นสิ่งเตือนใจให้คนรุ่นหลังได้ทำกิจการงานทั้งปวงตามหน้าที่ของแต่ละบุคคล โดยสุจริตและความพากเพียร เพื่อให้ชาติไทยนั้นได้อยู่ได้โดยเสรีและเป็นปกติสุข
                พระเจดีย์ชัยมงคล ประดิษฐานอยู่ในวัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันออกของเกาะเมือง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเจดีย์ก่อด้วยอิฐถือปูน ทรงลังกาองค์ใหญ่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงสร้างขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติในการชนะสงครามยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาแห่งเมืองหงสาวดี
พระอุโบสถ
เดิมสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐานรวมทั้งประกอบพิธีกรรมต่างๆ  พระอุโบสถหลังนี้เคยถูกใช้เป็นสถานนัดพบของเหล่าขุนนาง  นำโดยขุนพิเรนเทพและพรรคพวกซึ่งมาเสี่ยงเทียน เพื่อจะเป็นนิมิตหมายในการปราบขุนวรวงศาธิราชและท้าวศรีสุดาจันทร์
                ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์  ส่วนที่เป็นองค์พระประธาน  สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง เป็นพระพุทธรูปที่ปั้นด้วยหินทรายตลอดทั้งองค์  ส่วนที่เป็นจีวรถูกลงรักปิดทองประดับแก้ว ส่วนที่ไม่ใช่จีวรนั้นว่างเว้นเห็นเป็นเนื้อหินทรายที่สวยงาม ลักษณะเป็นมารปางวิชัย
วิหารพระพุทธไสยาสน์
                เมื่อเดินผ่านประตูทางเข้าด้านใน จะพบพระวิหารพระพุทธไสยาสน์อยู่ทางซ้ายมือ ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งสร้างขึ้นในแผ่นดินของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อใช้เป็นที่สักการบูชา และปฏิบัติธรรมกรรมฐาน พระพุทธรูปองค์นี้ได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่ในปี พ.ศ. 2508  ส่วนรูปแบบอาคารมีลักษณะเป็นวิหาร  สันนิษฐานว่ามีประตูทางเข้าอยู่ 2 ช่องทางด้านทิศเหนือ ภายในอาคารมีหน้าต่างสี่เหลี่ยม 4 บาน เสาของอาคารมีลักษณะกลมปรากฏร่องรอยบัวหัวเสาที่ประดับอยู่บนยอด องค์พระประธานของวิหารหันหน้าไปทางทิศตะวันออกอันเป็นด้านหน้าของวัด
การเดินทางไปยังวัดใหญ่ชัยมงคล
รถยนต์
                เดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพหลโยธิน ทางรังสิต  ถึงทางต่างระดับวังน้อยให้แยกซ้ายไปทางนครสวรรค์ จนถึงทางต่างระดับอยุธยา  เลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกเข้าอยุธยา  ตรงเข้ามาจะพบวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม(เจดีย์กลางถนน) เลี้ยวซ้ายไปอีก 1.5 กิโลเมตร วัดใหญ่ชัยมงคลจะอยู่ทางซ้ายมือ
รถประจำทาง
                 ขึ้นรถที่สถานีขนส่งสายเหนือ ลงที่แยกวงเวียนเจดีย์ แล้วต่อรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างเข้าวัดใหญ่ชัยมงคล
รถไฟ
                ลงที่สถานีรถไฟอยุธยา แล้วต่อด้วยรถตุ๊ก ตุ๊ก เข้าวัดใหญ่ชัยมงคล