วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
จากการที่ทีมนักฟุตบอลเยาชน 13 คน และโค๊ช
1 คนติดในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2561 จนเป็นข่าวที่โด่งดังไปทั่วโลก
ทำให้ทุกคนได้รู้จักชื่อถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนแห่งนี้มากขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ซึ่งเมื่อมีเหตุการณเช่นนี้เกิดขึ้น ทางกรมอุทยานฯ
คงมีแนวทางป้องกันต่อไปเพื่อไม่ให้เหตุเกิดซ้ำสอง
วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอน ท้องที่ ต.โป่งผา เนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่
มีจุดบริการท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ บริเวณถ้ำหลวง บ้านน้ำจำ
และบริเวณขุนน้ำนางนอน บ้านจ้อง
มีสภาพเป็นพื้นที่ราบระหว่างหุบเขาหินปูนสูงชันเงียบสงบ
ถ้ำหลวง เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่
เชื่อกันว่ามีความยาวมากที่สุดในประเทศไทยเนื่องจาก มีความยาวกว่า 7 กิโลเมตร
ปากถ้ำเป็นห้องโถงกว้างมากภายในถ้ำจะพบกับความงามของ เกล็ดหินสะท้อนแสง หินงอก
หินย้อย ธารน้ำและถ้ำลอด ถ้ำหลวงยังรอคอยความท้าทายการสำรวจจากนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา
เพราะสำรวจไปได้ไม่ถึงที่หมายก็ต้องล่าถอยออกมาด้วยพบกับอุปสรรคความยากลำบาก
ภายในถ้ำและยังมีถ้ำเล็กๆ อีก 3 แห่งในบริเวณเดียวกัน
สามารถเดินเข้าไปชมความงามได้ และควรแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
โดยที่ในช่วงฤดูฝนน้ำจะท่วมภายในถ้ำ ไม่พบหลักฐานทางโบราณคดี
ตำนานดอยนางนอน เรื่องแรกเล่าขานว่า ณ
เมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งมีพระรูปงดงามเป็นที่ยิ่ง
ได้แอบรักกับชายเลี้ยงม้าในวัง จึงหนีตามกันมาถึงที่ราบใกล้แม่น้ำโขง
เมื่อเดินทางไปถึงที่นั่น เจ้าหญิงก็ทรงครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว จึงเสด็จต่อไปไม่ไหว
บอกพระสวามีว่าจะประทับรออยู่ที่นั่น สวามีก็บอกว่าจะไปหาอาหารมาให้ อย่าไปไหน
ชายหนุ่มก็ไปแล้วไปลับไม่กลับมาเสียที
ปรากฏว่าถูกฆ่าโดยทหารของพระราชบิดาเจ้าหญิงที่สะกดรอยตามมา
ด้วยความเสียใจ นางจึงใช้ปิ่นปักผม
แทงพระเศียรของพระองค์จนเลือดไหลออกมาเป็นสาย กลายเป็นแม่น้ำแม่สายในทุกวันนี้
และพระวรกายของพระองค์ที่นอนเหยียดยาวจากทิศใต้จรดทิศเหนือ
ก็กลายเป็นดอยนางนอนจนทุกวันนี้
ทางไปอำเภอแม่จัน
มีขุนเขาทอดตัวคล้ายผู้หญิงนอนเหยียดยาว เรียกว่า ดอยนางนอน
ดอยส่วนที่ศีรษะเรียกว่า ดอยจ้อง หรือ ดอยจิกจ้อง (เดิมเรียกดอยนี้ว่า
ดอยท่าหรือดอยต้า) เป็นดอยของลูกชายปู่เจ้าลาวจกที่รอคอยพ่อ ดอยลูกถัดมาเรียกว่า
ดอยย่าเฒ่า ซึ่งเป็นภรรยาของปู่เจ้าลาวจก ส่วนดอยอีกลูกหนึ่งคือ ดอยดินแดง
หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนามของ ดอยตุง
เชื่อกันว่า ดอยทั้ง 3
นี้เป็นที่อยู่อาศัยเดิมของลาวจักราช ผู้เป็นต้นวงศ์ของพญามังราย
ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายมาสร้างเมืองหิรัญนครเงินยาง
เหนือดอยดินแดงเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยตุง อันถือเป็นปฐมธาตุแห่งแรกของภาคเหนือ
ตำนานเรื่องที่ 2 เล่าว่า
เจ้าหญิงเมืองพุกามกรีธาทัพออกตามหาเจ้าชายที่นางรัก นางออกรบ มีผู้คนล้มตายมากมาย
และขยายอาณาเขตมาเรื่อยๆ จนมาถึง “เวียงสี่ทวง” จึงพบกับเจ้าชาย แต่ปรากฏว่าเจ้าชายหนีหายไปกับสาวสวยชาวเวียงนี้อีกครั้ง
นางรู้สึกเศร้าสลดจนตรอมใจตาย
ก่อนตายได้ตั้งจิตอธิษฐานให้ร่างของนางกลายเป็นเทือกเขา
ที่ชาวบ้านพากันเรียกว่า “ดอยนางนอน” น้ำตาที่ไหลรินกลายเป็น
“ขุนน้ำนางนอน” ส่วนไพร่พลของนางก็กลายมาเป็นชนเผ่าหลากชาติพันธุ์บนภูเขาแห่งนี้
ตำนานเรื่องที่ 3 เกี่ยวกับ “พระธาตุจอมนาค”
อีกเรื่องว่า พญาครุฑลักพาลูกสาวพญานาค
มาแอบซุกซ่อนอยู่ในเทือกเขาแห่งนี้ พญานาคผู้พ่อออกตามหาก็มาพบลูกสาวนอนอยู่กับพญาครุฑในบริเวณที่เป็นต้นน้ำ
ปัจจุบันเรียกว่า “ขุนน้ำนางนอน” ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระธาตุดอยตุง
พญานาคขอลูกสาวคืน
แต่พญาครุฑขอแลกกับทองคำ ทุกวันนี้แหล่งน้ำที่พญานาคนำทองคำขึ้นจากบาดาล
มาแลกลูกสาวนั้นเรียกว่า “หนองตานาค” บริเวณที่พญานาคส่งทองคำให้พญาครุฑนั้นเรียกว่า
“หนองละกา” แปลว่าพญานาคลาจากสัตว์พวกนกกากลับบาดาล
ทองคำถูกนำไปเก็บไว้ที่ “ถ้ำทรายคำ” หรือถ้ำทรายทอง
ก่อนกลับไปพญานาคสร้าง “พระธาตุจอมนาค”
ขอบคุณแหล่งที่มา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น