วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555

สวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง (พุแค) Central Botanical Garden (Pukae)

      
หลานๆ ของผมเองน้องใบโพธิ์ ถัดมาน้องใบไทร
              ในช่วง นิวเยียร์ เคาท์ดาวน์ (New Year Countdown 2012)  ผมได้มีธุระไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดขอนแก่น  และจังหวัดมหาสารคาม  โดยออกเดินทางวันที่ 29 ธันวาคม 2554  เวลาประมาณ 20:00 น. ใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย  ไปออกสระบุรีเลี้ยวขวาเพื่อไปนครราชสีมา  การเดินทางค่อนข้างลำบากเพราะรถติดมากๆ ตอนแรกตั้งใจจะออกทางจอหอโคราช ต้องเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน  เพราะเวลาตีสองแล้วผมยังไม่ถึงแยกสีคิ้วเลย  พอถึงแยกสีคิ้วผมตัดสินใจกระทันหันใช้เส้นทางชัยภูมิแทน เพื่อหนีรถติด ไปออกภูเวียงและถึงขอนแก่น 06: 00 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม  หลังจากเสร็จธุระที่ขอนแก่น ก็เที่ยงวันได้เวลาขับรถเข้าสู่จังหวัดมหาสารคามไปส่งลูกน้องในแผนกที่ติดรถไปด้วย เลยนอนพักเอาแรงที่บ้านลูกน้องสักเงียบ  พอตื่นขึ้นมาตอนห้าโมงเย็น ก็ต้องรีบเดินทางกลับเพราะต้องไปบ้านลูกสะใภ้ที่บ้านหมี่ลพบุรี โดยตอนแรกผมมีความตั้งใจว่าหลังจากเสร็จธุระแล้วจะตระเวนเที่ยวแถวภาคอีสานให้หนำใจ  แต่กลับไม่ได้เที่ยว ขากลับผมใช้เส้นทางถนนมิตรภาพผ่านบ้านไผ่ เข้าโคราช  โดยตั้งใจแวะที่วัดโนนกุ่ม (วัดที่คุณสรพงษ์สร้าง) พอมาถึงวัดโนนกุ่มเวลาประมาณสี่ทุ่ม ได้ขับรถแวะเข้าไปปรากฏว่าปิด  ไม่มีใครเลยเงียบเหงา แสดงว่าเปิดเฉพาะตอนกลางวัน ผมเลยขับรถเข้าสระบุรี ไปจอดรถนอนที่จุดพักรถมวกเหล็ก  อากาศที่มวกเหล็กตอนกลางคืนจัดว่าหนาวเย็นมาก ผมและครอบครัวนอนในรถครับหลับสบาย  พอตื่นขึ้นมาตีสี่ ผมล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ ก็ออกรถทันทีโดยให้สมาชิกครอบครัวหลับต่อไป  และไปเช้าที่ สวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง (พุแค)จังหวัดสระบุรี เริ่มต้นของการท่องเที่ยวที่สวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง (พุแค) ก่อนไปลพบุรี

ลูกสาวผมกับหลานๆ
               สวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง (พุแค) Central  Botanical Garden (Pukae)  ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพระพุทธบาท - พุแค มีพื้นที่ ๓,๗๕๐ ไร่ เป็นสวนที่มีความสมบูรณ์มาก ในสวนรวบรวมพรรณไม้ไว้หลากหลายชนิด แบ่งแปลงปลูกไว้เป็นหมวด หมู่ ตามวงศ์ต่าง ๆ เส้นทางจากกรุงเทพ ฯ ไปตามถนนพหลโยธิน ผ่านสระบุรีที่ กม.๑๐๘ เลยไปอีก ๑๕ กม. จะมีถนนแยกขวา ไปเพชรบูรณ์ แยกซ้ายไปลพบุรี ถนนจะผ่ากลางพื้นที่สวนพฤกษศาสตร์ ทางซ้ายเป็นที่ทำการและตกแต่งงามด้วยไม้ดอก ไม้ประดับ สระน้ำสวยมาก มีพรรณไม้หลากหลายชนิด ทั้งไม้เดิมในธรรมชาติ และพรรณไม้ที่เก็บรวบรวมมาปลูกเพิ่ม ทางฝั่งขวาของถนน เป็นสวนป่าไม้ใหญ่ทั้งสิ้น และริมถนนจะเป็นธารน้ำไหล เหมือนเป็นน้ำตกน้อย ๆ เป็นที่พึ่งของชาวสิบล้อ ที่จะมาอาบน้ำ พักผ่อนกันบริเวณนี้ รถเข้าไปในสวนป่าทางด้านขวานี้ได้ นักเดินทางไม่มีเวลาแวะชม หากจำเป็นก็มีสุขาให้เป็นที่พึ่งได้ สวน ฯ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของตำบลพุแค อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ความริเริ่มในการสร้างสวนพฤกษศาสตร์ ครั้งแรกนั้นคิดที่จะสร้างที่อำเภอพระพุทธบาท ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๘๔ แต่พื้นที่ที่เลือกได้ขาดแหล่งน้ำ และดินไม่ดี จึงเลือกใหม่ได้ที่ป่าพุแค ชายดงพระยาเย็น พอปี พ.ศ.๒๔๙๒ ก็ได้รับการจัดสรรงบประมาณ มาดำเนินการเป็นปีแรก และมาทำพิธีเปิดในปี พ.ศ.๒๔๙๓ สวน ฯ แห่งนี้ไม่มีที่พัก ไม่มีสถานที่ให้กางเต็นท์ แต่มีอาหารขายพอแก้หิว หากจะพักก็พอมีโรงแรมอยู่หัวถนน ที่จะไปเพชรบูรณ์ และมีที่เพาะพันธุ์ไม้สำหรับแจกให้เอาไปปลูก 

           จังหวัดสระบุรี เป็นจังหวัดในภาคกลางของประเทศไทย นับเป็นเสมือนด่านผ่านระหว่างภาคกลางกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และพรั่งพร้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย

         จังหวัดสระบุรีมีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ได้แก่ ตอนเหนือติดกับจังหวัดลพบุรี ทางตะวันออกติดกับนครราชสีมา ทางใต้ติดกับนครนายก ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา ส่วนทางตะวันตกติดกับพระนครศรีอยุธยาและลพบุรี
สภาพภูมิศาสตร์ของจังหวัดสระบุรี 
    นับว่าเป็นทำเลแห่งการเพาะปลูก ได้รับความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำสายหลัก คือแม่น้ำป่าสัก และสภาพโดยทั่วไปเป็นที่ราบลุ่ม
ประวัติศาสตร์
        สระบุรีเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งแต่โบราณ สันนิษฐานว่าตั้งขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2092 ในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ การตั้งเมืองนี้สันนิษฐานว่า พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้แบ่งเขตพื้นที่บางส่วนของเมืองลพบุรีกับเมืองนครนายกมารวมกันตั้งขึ้นเป็นเมืองสระบุรี ทั้งนี้เพื่อต้องการให้เป็นศูนย์ระดมพลเมืองในยามศึกสงคราม เพราะฉะนั้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมา จึงมักพบเรื่องราวของจังหวัดสระบุรีเกี่ยวกับการศึกสงครามอยู่เสมอ สำหรับที่มาของคำว่า สระบุรีสันนิษฐานว่า เพราะเหตุที่ทำเลที่ตั้งครั้งแรกมีบึงอยู่ใกล้ คือ บึงหนองโง้งเมื่อตั้งเมืองขึ้นจึงได้นำเอาคำว่า สระมารวมเข้ากันกับคำว่า บุรีเป็นชื่อเมือง สระบุรี
         สภาพโดยทั่วไปมีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และยังได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชันและพายุไต้ฝุ่นอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนมีอุณหภูมิเฉลี่ย 28.3 องศาเซลเซียส มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยปีละประมาณ 1147.6 มิลลิเมตร มีฤดูต่าง ๆ 3 ฤดูคือ
ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม อากาศร้อนและแห้งแล้ง
ฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม อากาศจะชุ่มชื้นในเดือนกันยายน
ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็นสลับกับอากาศร้อน

            สวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง(พุแค)คือ สวนที่จัดสร้างขึ้นเพื่อการอนุรักษ์ และศึกษาค้นคว้าทางด้านพฤกษศาสตร์และศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพืช โดยทั่วไปมักจำแนกตามวงศ์สกุลและชนิดของพันธุ์ไม้  รวบรวมตัวอย่างพืชทุกชนิดที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและต่างประเทศไว้เป็นหมวดหมู่  ตลอดจนใช้เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ หากใครมีเวลา สามารถต้องการสูดอากาศแบบบริสุทธิ์ นั่งชมธรรมชาติใต้ร่มไม้  ผมขอแนะนำสวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง(พุแค) เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก  
-->

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น