ประเพณีลอยกระทงวัดบางโฉลงใน 2556

ประเพณีลอยกระทงวัดบางโฉลงใน 2556

วัดบางโฉลงใน  ตั้งอยู่เลขที่  38  หมู่ที่  2  บ้านบางโฉลง  ถนน บางนา -  ตราด  กม  16  ตำบลบางโฉลง  อำเภอบางพลี  จังหวัดสมุทรปราการ สร้างตั้งแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา  ประมาณ  พ.ศ.  2301  อายุประมาณ  255  ปี  ((พ.ศ.  2556)  เดิมชื่อว่า  “วัดเกาะแก้วสว่างอารมณ์”  ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น  “วัดบางโฉลงใน”  เข้าใจว่าให้มีนามตรงกับชื่อตำบลที่ตั้งวัด  ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา  เมื่อวันที่  2  กุมภาพันธ์  พ.ศ.  2499  มีปูชนียวัตถุที่สำคัญ  คือ  หลวงพ่อเพชร  และหลวงพ่อสัมริด  เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธ์  เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก  นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานคือ  พระเจดีย์และอุโบสถหลังเก่า  อายุประมาณ  200  ปี

นายก อบต. จำเริญ หลำวรรณะ กล่าวเปิดงานประเพณีแข่งเรือพาย

ประเพณีลอยกระทงปี 2556 นี้ วัดบางโฉลงใน  และองค์การบริหารส่วนตำบลบางโฉลง (อบต.บางโฉลง) โดยท่านนายก อบต. จำเริญ หลำวรรณะ  จัดงาน”ประเพณีสืบสานวัฒนธรรมแห่งสายน้ำ”  และการแข่งขันเรือพายประเภทเรือมาตรดั่งเดิมและประเภทตกแต่ง  9 ฝีพาย  และ12 ฝีพาย

หลวงพ่อปะพรมน้ำมนต์

เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำมหกรรมลอยกระทงกรุงเทพมหานคร

เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำมหกรรมลอยกระทงกรุงเทพมหานคร

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  ขอเชิญเที่ยวชมงานเทศกาลสีสันแห่งสายน้ำมหกรรมลอยกระทงกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่15-17 พฤศจิกายน ปี 2556  สถานที่จัดงาน เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ แม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระพุทธยอดฟ้า - สะพานกรุงธน 

กิจกรรม

ชมขบวนเรือประดับไฟที่สวยงาม จำนวน 10 ลำ ตั้งแต่เวลา เวลา 19.00 - 22.00 น. ในแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นทางขบวนเรือจะเริ่มตั้งแต่ สะพานกรุงเทพ - สะพานกรุงธน การประดับไฟบริเวณสะพานพระปิ่นเกล้า พระพุทธยอดฟ้า พระราม8 การประดับตกแต่งไฟริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา การแสดงทางศิลปะวัฒนธรรม การแสดงพลุประกอบแสงสีเสียงที่สะพานพุทธ

- การจัดแสดงเรือประดับไฟฟ้าจำนวน 10 ลำ ตั้งแต่เวลา เวลา 19.00 - 22.00 น. ในแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นทางขบวนเรือจะเริ่มตั้งแต่ สะพานกรุงเทพ - สะพานกรุงธน โดยมีเรือดังนี้

1.ชื่อเรือ : วารินทร์วฤณพร

แนวความคิด  : คุณค่าและคุณประโยชน์ของสายน้ำที่มอบความอุดมสมบูรณ์และมีบุญคุณต่อทุกชีวิตจึงเปรียบเหมือนดั่งพรของเทพเทวดาที่มอบสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดให้กับเรา

2.ชื่อเรือ: ฮักแพงธรรมวิถี ล่องมหานทีเจ้าพระยา

แนวความคิด  : น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชที่ว่า “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” โดยนำไปตีความสร้างความหมาย เชื่อมโยงสัญลักษณ์วัฒนธรรมศิลปะ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

3.ชื่อเรือ: ประเทศพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน

แนวความคิด  : เแสดงภาพลักษณ์และการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนที่จะมีขึ้นในปี 2558 นี้

4.ชื่อเรือ: สีสันสายน้ำแห่งบางกอก

แนวความคิด  : สีสัน แห่งบางกอก สีสันแห่งสายน้ำ นำความสุขความสดใส มาสู่คนไทย สู่หัวเมืองหลักของประเทศ สู่ประเพณีที่สวยงาม และดีงาม ถ่ายทอดสู่คนรุ่นหลัง  ให้เห็นเมืองหนึ่งที่ให้เห็นถึงประเพณีลอยกระทงของไทย

5.ชื่อเรือ: สนุกสนานลอยกระทงเมืองไทย

แนวความคิด  : ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีของชาวไทยที่มีมาช้านาน อยากให้คนไทยได้เห็นถึงความสำคัญของประเพณีลอยกระทง

6.ชื่อเรือ: มหากษัตริย์บิดาแห่งมหานที

แนวความคิด  : สายน้ำก่อเกิดความดีงาม ก่อเกิดมหาบุรษผู้ทรงคุณธรรม สายน้ำสร้างคุณค่า ทางศิลปวัฒนธรรมและมรดกทางจิตใจ

7.ชื่อเรือ: อัญมณีแห่งสายน้ำเจ้าพระยา

แนวความคิด  : ความสวยงามและคุณค่าของสายน้ำเจ้าพระ เมื่อแสงสว่างจากแสงจันทร์วันเพ็ญตกกระทบสายน้ำแห่งเจ้าพระยา ที่มีเรื่องเล่า มีวัฒนธรรมอยู่คู่กับคนไทยและประเทศไทยมาช้านานเกิดแสงสีต่างๆในลำน้ำเป็นประกายสวยงามเปรียบเสมือนกับแสงที่ตกกระทบกับอัญมณีที่ล้ำค่า คือมณีนพเก้า

8.ชื่อเรือ: มหาหิมพานต์วันเพ็ญ

แนวความคิด  : การเฉลิมฉลองในเทศกาลคืนลอยกระทงที่เกิดขึ้นระหว่างโลกแห่งจินตนาการของป่าหิมพานต์กับโลกมนุษย์ ที่เกิดขึ้นในมิติเวลาเดียวกัน

9.ชื่อเรือ: เรืองรองส่องนที จรัสแสงหลากสี ผุดผ่องพระบารมี พระบรมราโชวาท ส่องแสงลำธาร

แนวความคิด  : เน้นความสำคัญให้เห็นถึงการศึกษา การอบรมสั่งสอน ของเด็กในยุคปัจจุบัน ให้เป็นบุคลากรที่ดีของชาติ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

- ททท. สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 02-250-5500

- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร. 1672

ขอบคุณข้อมูล การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

โรงแรมพนมรุ้งปุรี บูติคโฮเทลแอนด์รีสอร์ท PhanomrungPuri Boutique Hotels and Resorts

โรงแรมพนมรุ้งปุรี บูติคโฮเทลแอนด์รีสอร์ท PhanomrungPuri Boutique Hotels and Resorts

โรงแรมพนมรุ้งปุรี เป็นโรงแรมที่พักนางรอง บุรีรัมย์  ซึ่งเป็นที่พักที่อยู่ในย่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์  เช่นอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง Phanomrung Historical Park และอุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทหินเมืองต่ำ Muangtam Ruin  เพียง 20 กิโลเมตร

โรงแรมพนมรุ้งปุรี บริการห้องพัก 67 ห้อง  ทุกห้องให้ความรู้สึกสงบและกลมกลืนกับวัฒนธรรมได้อย่างแท้จริง เพราะโรงแรมพนมรุ้งปุรี บูติคโฮเทลแอนด์รีสอร์ท  ออกแบบได้อย่างสวยงาม กลมกลืนด้วยศิลปกรรมพื้นถิ่นอีสานใต้ใน จ.บุรีรัมย์ ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบขอมในประเทศไทยของปราสาทหินเขาพนมรุ้งและปราสาทหินเมืองต่ำ

ประเภทห้องพัก

ห้องพัก  Buriram Accommodation ที่ออกแบบมาอย่างสวยงามด้วยศิลปะแบบเขมรในประเทศไทยทั้ง 5 รูปแบบ

1. ห้องซูพีเรียร์รูม  Superior Room

2. ห้องแฟมมิลี่รูม Family Room

3. ห้องดีลักซ์รูม  Deluxe Room

4.ห้องดูเพล็กแฟมมิลี่รูม  Duplex Family Room

5. ห้องแกรนด์ดูเพล็กสวีท  Grand Duplex Suit

สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม

- บริการนวด

- สระว่ายน้ำ (สำหรับเด็ก)

- สระว่ายน้ำกลางแจ้ง

- สปา

- สวน

- บาร์ริมสระน้ำ

- บริการซักรีด/ซักแห้ง

                - คอฟฟี่ช็อป

- ที่จอดรถ

                - ห้องอาหารบาราย  Barai Restaurant

การเดินทาง

โรงแรมพนมรุ้งปุรี อยู่ห่างจากจากกรุงเทพฯ ประมาณ 320 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง เดินทางสะดวกจากกรุงเทพด้วยถนน 4 เลนจนถึงหน้าโรงแรมพนมรุ้งปุรี  โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24

สถานที่ตั้ง โรงแรมพนมรุ้งปุรี บูติคโฮเทลแอนด์รีสอร์ท

212 ถ.ประจันตเขต (นางรอง – ลำปลายมาศ) ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ 31110

โทรศัพท์ : 044 632-222 โทรสาร : 044 633-800 , 086-3366618 

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง

ช่วงวันหยุดออกพรรษา  ได้มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดสุรินทร์ ไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ของภรรยา(แม่ยาย)  ขากลับเลยถือโอกาสแวะเที่ยวชม อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือ ปราสาทหินพนมรุ้ง   และด้วยความอยากลองกล้องถ่ายรูปเจ้า Nikon 5100 กับคู่เลนท์ Nikon AF-S DX NIKKOR 18-105 mmf/3.5-5.6G ED VR ที่เพื่อนชาวต่างชาติซื้อมาฝาก

ออกจากบ้านที่สุรินทร์ก็ประมาณเที่ยงวัน กว่าจะถึงปราสาทพนมรุ้งได้ก็ประมาณสามโมงเย็น เล่นเอาหอบเลยเพราะรถเยอะมากๆ ติดกันเป็นแถวยาว คิดแล้วเกือบท้อกลัวเสียเวลาในการเดินทางกลับสมุทรปราการ     คิดไปคิดมาไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วอุตส่าตั้งใจมาแต่แรกจัดไปไม่ให้เสียกำลังใจ   ปราสาทพนมรุ้งวันนี้  นักท่องเที่ยวดูบางตา  หรือเราอาจจะมาช่วงเย็นแล้ว ซึ่งคนอื่นเขาพากันกลับเกือบหมดแล้วว่างั้น

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือ ปราสาทหินพนมรุ้ง ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 (บ้านดอนหนองแหน) ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 77 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยโบราณสถานสำคัญ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงประมาณ 200 เมตรจากพื้นราบ (ประมาณ 350 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) คำว่า พนมรุ้ง นั้น มาจากภาษาเขมร คำว่า” วนํรุง “แปลว่า ภูเขาใหญ่

ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย มีการบูรณะก่อสร้างต่อเนื่องกันมาหลายสมัย ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ถึงพุทธศตวรรษที่ 17 และในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมได้หันมานับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนา ในช่วงแรกปราสาทหินพนมรุ้ง สร้างขึ้นจากหินทรายสี

 ปราสาทพนมรุ้ง มีประวัติหลายอย่างทางวัตถุทางธรรมชาติกว่า100000ปี ควรอนุรักษ์ไว้ไห้ลูกหลานสืบต่อไป ความสวยงาม ความเป็นอยู่ของชาว จ.บุรีรัมย์

การเดินทางไปปราสาทหินพนมรุ้ง

จากกรุงเทพฯ

ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304  ผ่านกบินทร์บุรี ขึ้นเขาปัก  ลงจากเขาปักพอถึงสี่แยกไฟแดงที่สองให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 (สีคิ้ว-อุบลราชธานี) ผ่านหนองกี่ นางรอง ถึงทางแยกทางหลวงหมายเลข 2117 ให้เลี้ยวขวา ถึงอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และขับไปอีกประมาณ 12 กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง

ที่พักใกล้ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง

โรงแรมพนมรุ้งปุรี บูติคโฮเทลแอนด์รีสอร์ท 

243 ถ. ประดิษฐ์ปานะ ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ 31110 

Tel : (044) 631-014  Fax : (044) 631-465 

ชายน้ำรีสอร์ท Chainam resort

อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ โทรศัพท์ 

Tel: O87-875-6771

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจากสารานุกรมวิกิพีเดีย

ดอยม่อนจอง ดินแดนกวางผา และกุหลาบพันปี เชียงใหม่

ดอยม่อนจอง ดินแดนกวางผา และกุหลาบพันปี เชียงใหม่

ขุนเขาที่ยิ่งใหญ่ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่  สถานที่ซึ่งได้ๆ ขึ้นชื่อเป็นดินแดนแห่งกวางผา หรือม้าเทวดา สันเขางามที่ปกคลุมเพียงต้นหญ้าเล็กๆ  ในฤดูหนาวบริเวณพื้นที่แห่งนี้จะกลายเป็นทุ่งหญ้าสีทองและกุหลาบพันปีออกดอกตระการตา  ซึ่งถือว่ามากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง  จุดเด่นที่สันเขาอันงดงามที่สูงผงาดขึ้นเสียดฟ้าคือดอยม่อนจอง หรือเรียกว่า “ยอดหัวสิงห์”  เป็นที่ยอดสูงสุด  ที่นักเดินป่ารุ่นแล้วรุ่นเล่ามักจะไม่พลาดกับการได้มาสัมผัส  หนึ่งในขุนเขาอลังการของภาคเหนือ ดินแดนแห่ง  Unseen  อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย

ดอยม่อนจอง อยู่ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอมก๋อย อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม ประมาณ 170 กิโลเมตร เป็นอำเภอที่ล้อมรอบไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่  ดอยม่อนจองเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม บนเส้นทางเดินบนสันดอยไปสู่ยอดสูงสุดกว่า 3 กิโลเมตรเป็นจุดชมวิวที่เปิดโล่ง  เป็นหน้าผาสูงมองลงไปจะเห็นเทือกเขาสลับซับซ้อน อีกด้านเป็นป่าทึบซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า  ยังมีพันธ์ไม้ที่สำคัญคือต้นกุหลาบพันปี มีขึ้นอยู่เป็นดงๆ แต่ละต้นมีขนาดใหญ่มากเรียกได้ว่าทีนี่เป็นแหล่งของกุหลาบพันปีที่สมบูรณ์มาก ในช่วงฤดูหนาวจะออกดอกสีแดงสะพรั่งงดงามยิ่งนัก เมื่อกุหลาบพันปีมีดอกก็จะเป็นจุดดึงดูดให้นกสวยงามนานาชนิดมารวมกันที่นี้เพื่อดูดกินน้ำหวาน นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวในช่วงเวลานี้ก็จะได้เห็นทั้งดอกกุหลาบพันปีและได้ดูนกสวยงามอีกด้วย

นอกจากนี้ที่ ดอยม่อนจอง นักท่องเที่ยวยังได้ชม กวางผา หรือม้าเทวดา ที่หาดูได้ยาก  ปัจจุบันอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ และกวางผาเป็นหนึ่งใน 15 สัตว์ป่าสงวนของไทย  กวางผาอาศัยอยู่บนภูเขาสูง พบที่ระดับความสูง 3,300-13,500 ฟุต  ที่เป็นหน้าผาที่มีพืชขึ้นเป็นหย่อมและมีหลืบหินสำหรับการหลบซ่อน อาศัยเป็นฝูงเล็ก ๆ ประมาณ 5-6 ตัว ส่วนตัวผู้จะหากินโดยลำพังยกเว้นในฤดูผสมพันธุ์เท่านั้น  เขตแพร่กระจายพันธุ์ตั้งแต่เขตอัลซูรีในรัสเซีย แมนจูเรีย จีน เกาหลี ลงมาจนถึงพม่า และตะวันตกเฉียงเหนือของไทย ปัจจุบันในเมืองไทยพบกวางผาเฉพาะในเทือกเขาที่เป็นต้นน้ำปิงเท่านั้น

กวางผากินหญ้า ใบไม้ และผลไม้เป็นอาหาร มีสายตาดี จึงพึ่งพาประสาทการมองมากกว่าประสาทรับกลิ่นหรือประสาทรับฟัง ซึ่งต่างจากสัตว์หากินเป็นฝูงชนิดอื่น เมื่อตกใจกลัวจะทำตัวแข็งทื่อ หากภัยอันตรายเข้าใกล้ตัวมากจึงวิ่งหนีไป  ฤดูผสมพันธุ์ของกวางผาอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม ตั้งท้องนานประมาณ 6 สัปดาห์ ออกลูกครั้งละตัว ลูกกวางผาจะอยู่กับแม่เป็นเวลาประมาณ 6 เดือนแล้วจึงแยกย้ายไป

สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ Chiangmai Provincial Office of Tourism and Sports

ชั้น 2 สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณศูนย์ราชการ ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ 50300

สายด่วนโทร 0 5311 2877 โทรศัพท์ / โทรสาร 0 5311 2877-18

อมก๋อยรีสอร์ท

อมก๋อยรีสอร์ท ตั้งอยู่ที่ ตำบลยางเปียง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ห่างจากกรุงเทพประมาณ 750 กม.ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 9 ชั่วโมง 56 นาที  ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 184 กม. ใช้เวลาเดินทางตัวจังหวัดประมาณ 2 ชั่วโมง 58 นาที  และห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1.5 กม. ใช้เวลาเดินทางจากตัวอำเภอประมาณ 3 นาที

เขาตะเกียบ ประจวบคีรีขันธ์

เขาตะเกียบ ประจวบคีรีขันธ์

เขาตะเกียบเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ลักษณะเป็นภูเขา 2 ลูกที่อยู่ใกล้กัน (จึงถูกเรียกว่าเขาตะเกียบ) และยื่นไปในทะเล  มีหาดทรายที่ขาวละเอียดโดยมีความยาวประมาณ  1.5 กิโลเมตร  มีทิวทัศน์และโขดหินที่สวยงาม  บริเวณด้านล่างของเขาตะเกียบมีร้านขายอาหารทะเล และร้านขายของที่ระลึก  รวมทั้งที่พักไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว

บนยอดเขาตะเกียบเป็นลานกว้างขวาง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติองค์ใหญ่ และเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ทะเลหัวหินที่สวยงาม  นักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นเกาะสิงห์โต  และเกาะเต่า อันเป็นสถานที่ๆ น่าท่องเที่ยวไม่น้อยเลยเช่นกัน  นักท่องเที่ยวและนักตกปลาสามารถนั่งเรือไปเที่ยวชมหรือจะตกปลา  สามารถเช่าเรือได้ที่หมู่บ้านเขาตะเกียบ ราคา 2,500 บาท (5 คน) - 3,500 บาท (10 คน) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที

ที่พักใกล้เขาตะเกียบ

โรงแรมเดอะไบฮาย

ห้องพักกว้างขวาง สะอาด เจ้าของดูแลเองบริการดี วิวสวย จำนวนห้องพัก 15 ห้อง 89 หมู่ 5 บ้านหัวดอน, หนองแก, เขาตะเกียบ, หัวหิน / ชะอำ,  ประจวบคีรีขันธ์     

วรบุระ รีสอร์ท แอนด์ สปา

ห้องพักสะอาด กว้างขวาง ทำเลที่ตั้งดี พนักงานที่บริการอย่างสุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส จำนวนห้องพัก 77 ห้อง 83/199 ซอยทะเล 12 หนองแค, เขาตะเกียบ, หัวหิน / ชะอำ, ประจวบคีรีขันธ์            

หัวหิน มันตรา รีสอร์ท

ห้องพักสะอาด พนักงานที่บริการอย่างสุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส อยู่ใกล้ทะเล เงียบสงบ จำนวนห้องพัก 49 ห้อง 83/181 ซ.บ้านหนองแก, เขาตะเกียบ, หัวหิน / ชะอำ, ประจวบคีรีขันธ์

เลทส์ ซี อัลเฟรสโก้ รีสอร์ท

รีสอร์ทติดทะเล มีชายหาด และมีสระว่ายน้ำทอดตัวยาวตลอดแนวห้องพัก พนักงานให้การบริการดี เดินไปเที่ยวเล่นที่ตลาด ciceda ได้ใกล้ จำนวนห้องพัก 40 ห้อง 83/188 ซอยทะเล 12, ถนนเขาตะเกียบ-หัวหิน, เขาตะเกียบ, หัวหิน / ชะอำ, ประจวบคีรีขันธ์

บันยัน รีสอร์ท หัวหิน

ห้องพักสะอาด สวยงาม มีความเป็นส่วนตัวดี ห้องพักกว้างขวาง สะดวกสบาย สระว่ายน้ำอยู่ด้านหลังห้องพัก พนักงานบริการดี จำนวนห้องพัก 86 ห้อง 68/34 ถนนเพชรเกษม ตำบลหนองแก หัวหิน , เขาตะเกียบ, หัวหิน / ชะอำ, ประจวบคีรีขันธ์              

โรงแรมซีฮอร์ส หัวหิน

ห้องพักสะอาด พนักงานบริการดี เงียบสงบ จำนวนห้องพัก 29 ห้อง 123/45 หมู่บ้านเขาตะเกียบ ต.หนองแก, เขาตะเกียบ, หัวหิน / ชะอำ, ประจวบคีรีขันธ์

เวียงกุมกาม เชียงใหม่ เมืองหลวงแห่งแรกของล้านนา

เวียงกุมกาม เชียงใหม่ เมืองหลวงแห่งแรกของล้านนา

เวียงกุมกาม เป็นเมืองโบราณที่พ่อขุนเม็งราย กษัตริย์แห่งโยนกนคร ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1829 ซึ่งปัจจุบันอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเชียงใหม่ ในเขตตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี และอยู่ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำปิง  มีโบราณสถานที่โดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ คือ วัดเจดีย์เหลี่ยม วัดธาตุน้อย วัดช้างค้ำ วัดธาตุขาว วัดพญามังราย วัดพระเจ้าองค์ดำ กู่ป้าด้อม วัดปู่เปี้ย วัดหนานช้าง และวัดอีก้าง 

ที่พักเชียงใหม่

โรงแรมพรพิงค์ทาวเวอร์เชียงใหม่

46-48 ถนนเจริญ. อ. เมือง   เชียงใหม่

กฤษดาดอย รีสอร์ท เชียงใหม่

90 หมู่ 4 ถนนหางดง-สะเมิง, บ้านโป่ง อ.หางดง   เชียงใหม่

โรงแรม ธารินทร์ เชียงใหม่

10/7 หมู่ 2 ถ.ซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง, ช้างเผือก, อ.เมือง  เชียงใหม่

 เฮือน จะนะ บูติค (ชื่อเดิม ฟ้อนคำ รีสอร์ท)

333 หมู่ 11 ต.น้ำแพร่ อ.หางดง   เชียงใหม่

-->

วัดพระศรีสรรเพชญ์ จ.พระนครศรีอยุธยา

วัดพระศรีสรรเพชญ์ จ.พระนครศรีอยุธยา
                 วันที่ 17 มีนาคม  ได้มีโอกาสเดินทางไปบริจาคสิ่งของ   และเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กกำพร้า     และร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีที่วัดตาลเจ็ดช่อ  ที่จังหวัดอ่างทอง      ขากลับได้แวะเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา  วัดมหาธาตุ, พระมงคลบพิตร  และวัดพระศรีสรรเพชญ์           ซึ่งผมเองก็มาเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา หลายครั้ง  แต่ยังไม่ทั่วถึง  เรามาทำความรู้จักของวัดพระศรีสรรเพชญ์กันก่อนดีกว่า  ประวัติศาสตร์       ก็คือประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ต้องซ้ำกันหรือไม่ก็คล้ายๆ กันนะครับ

วัดพระศรีสรรเพชญ์  มีพื้นที่ 28 ไร่  เดิมเป็นพระราชวังหลวงของพระเจ้าอู่ทอง ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ที่สร้างขึ้นก่อน เมื่อปี พ.ศ. 1893 เคยมีปราสาท 3 หลัง ได้แก่ พระที่นั่งไอยศวรรย์มหาปราสาท, ไพฑูรย์มหาปราสาท, และไพชยนต์มหาปราสาท  เป็นเวลานาน 98 ปี  วัดพระศรีสรรเพชญ์  ตั้งอยู่ระหว่าง วิหารพระมงคลบพิตร และ พระราชวังโบราณ เป็นวัดหลวงในพระราชวังหลวงของกรุงศรีอยุธยา เหมือนอย่างเช่น วัดมหาธาตุ ของกรุงสุโขทัย อันเป็นต้นแบบของการสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในพระราชวังของกรุงรัตนโกสินทร์ 

-->